- หมวดหมู่ประเภทกฎหมาย
- Links ศาล
หมวดหมู่ประเภทกฎหมาย คำพิพากษาศาลฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2451/2545 บุกรุกโดยไม่มีเหตุอันควร (มาตรา 362,364)
พนักงานอัยการประจำศาลแขวงนนทบุรี โจทก์
นายสมเกียรติ แซ่ลิ้ม จำเลย
อาญา บุกรุกโดยไม่มีเหตุอันควร บุกรุกโดยรบกวนการครอบครอง (มาตรา 362,364)
การที่จำเลยเข้าไปในตึกแถวคูหาหนึ่งและปีนขึ้นไปบนหลังคาของตึกแถวอีกคูหาหนึ่ง เพื่อสำรวจตรวจตราจดูทรัพย์สินของมีค่าภายในตึกแถวทั้งสองคูหาดังกล่าวเป็นการเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันควร อันเป็นความผิดตาม ป.อ.มาตรา 364 เท่านั้น จะถือเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นตามามาตรา 362 ยังไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยโดยไม่มีสิทธิกระทำได้และโดยไม่มีเหตุอันควรได้เข้าไปในตึกแถวเลขที่ 222/33 อันเป็นเคหสถานที่พักอาศัยของนางบุญรัก พฤกษ์พันธุ์รักษ์ผู้เสียกาย เพื่อสำรวจตรวจดูทรัพย์สินของมีค่าภายในเคหสถานดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการครองครองเคหสถานของผู้เสียหายโดยปกติสุข ภายหลังจำเลยได้กระทำความผิดดังกล่าวแล้ว จำเลยโดยไม่มีสิทธิกระทำได้และโดยไม่มีเหตุอันควรได้ปีนขึ้นไปบนหลังคาตึกแถวเลขที่ 222/55 อันเป็นเคหสถานที่พักอาศัยของบุคคลอื่นเพื่อสำรวจดรวจตราดูทรัพย์สินของมีค่าภายในเคหสถานดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการครองครองเคหสถานของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 362, 364
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 364 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดต่างกรรมกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน รวม 2 กระทง จำคุก 4 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษจำคุกนั้น เห็นว่า การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในเคหสถานที่พักอาศัยของบุคคลอื่น เพื่อสำรวจตรวจดูทรัพย์สินของมีค่าภายในเคหสถานดังกล่าวถึง 2 แห่ง ในเวลาว่าไล่เลี่ยกัน แม้จะไม่ปรากฏเจตนาที่แท้จริงของจำเลยว่ามีจุดประสงค์ใด แต่ก็เป็นที่เห็นได้ว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่ยำเกรงกฎหมาย ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของสุจริตชน ตามพฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่สมควรรอการลงโทษจำคุกให้จำเลย แต่อย่างไรก็ตามการกระทำของจำเลยไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายอื่นอีกและไม่ปรากฎว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ศาลฎีกาเห็นสมควรให้เปลื่ยนโทษจำคุกเป็นโทษกักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23
อนึ่ง การที่จำเลยเข้าไปในตึกแถวเลขที่ 222/33 และปีนขึ้นไปบนหลังคาตึกแถวเลยที่ 222/55 เพื่อสำรวจตรวจดูทรัพย์สินของมีค่าภายในตึกแถวทั้งสองห้องดังกล่าว เป็นการเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันสมควรอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364 เท่านั้น จะถือเป็นการรบกวนการครอบครอง
อสังหาริมทรัพย์ของอื่นอันเป็นความผิดตามมาตรา 362 ยังไม่ได้ ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้เอง แม้ไม่มีคู่ความอุทธรณ์ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364 รวม 2 กระทง ให้เปลี่ยนโทษจำคุก 2 เดือน เป็นโทษกักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาอุทธรณ์ภาค 1
(ชาญชัย ลิขิตจิตถะ - จำรูญ แสนภัคดี - วสันต์ ตรีสุวรรณ)
จิตฤดี วีระเวสส์ - ย่อ
กิจชัย จิตารารักษ์ - ตรวจ
โดยมีจุดมุ่งหมาย เพื่อการศึกษา, วิจัยกฎหมายและแนะนำผลงานของผู้เขียนข้อมูลหรือบทความนั้นๆ เพื่อให้เกิด
ความเข้าใจในกฎหมาย และมุ่งประโยชน์ ต่อส่วนรวมเป็นสำคัญ โดยมิได้กระทำเพื่อหากำไรในทางการค้าแต่อย่างใดทั้งสิ้น