หมวดหมู่ประเภทกฎหมาย คำพิพากษาศาลฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2575/2544 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (มาตรา 264 )

คำสั่งคำร้องศาลฎีกาที่ 2575/2544                                                                                            
                                               นายวอรุสาห์  มหัคฆพงศ์                               โจทก์
                                                การประปาส่วนภูมิภาคกับพวก                        จำเลย      

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย   (มาตรา 264)

     คำร้องของโจทก์ที่อ้างว่า  โจทก์มีสิทธิได้รับการสอบสวนความผิดทางวินัยจากกรรมการสอบสวนซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานในองค์กรของจำเลยตามที่กำหนดไว้ในระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสอบสวนทางวินัยของจำเลย  การที่จำเลยไม่ปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนั้นกรณีตามระเบียบดังกล่าวเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนั้นกรณีตามคำร้องของโจทก์มิใช่เป็นการโต้แย้งว่าบทบัญญัติแห่งกฏหมายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ  จึงมิใช่กรณีที่ศาลจะต้องรอการพิจารณาพิพากษาคดีไว้ชั่วคราวและส่งความเห็นเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  มาตรา 264

     โจทก์ฟ้องว่า  จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ว่าการจำเลยที่ 1 โดยไม่สุจริตได้ออกคำสั่งโดยมิชอบ  ตั้งจำเลยที่ 3 และที่ 6 ซึ่งมิได้เป็นผู้ปฏิบัติงานการประปาส่วนภูมิภาคเป็นประธานกรรมการสอบสวนและกรรมการสอบสวนฝ่าฝืนข้อบังคับการประปาส่วนภูมิภาค  ข้อ 39  และข้อ 40 ร่วมกับจำเลยที่ 4 ที่ 5 และที่ 7เพื่อสอบสวนทางวินัยกล่าวหาว่าโจทก์ทุจริตในการเบิกเงินค่าเช่าบ้านทั้ง ๆ ที่โจทก์ได้เลิกเงินค่าเช่าบ้านถูกกล่าวหาว่าโจทก์ทุจริตในการเบิกเงินค่าเช่าบ้านทั้งๆ ที่โจทก์ได้บอกเงินค่าเช่าบ้านถูกต้องตามระเบียบ  ต่อมาจำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ว่าการได้ออกคำสั่งพักงานโจทก์โดยอาศัยคำสั่งกรรมการสองสวนที่ไม่ชอบ  การกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับการประปาส่วนภุมิภาคทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย  ขอให้บังคับให้จำเลยที่ 1 เพิกถอนคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยและเพิกถอนคำสั่งพักงาน  หากไม่ยอมปฏิบัติให้ถือคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนา

      ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์

     โจทก์อุทธรณ์

     คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา

     โจทก์ยื่นคำร้องว่า  จำเลยตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยโจทก์โดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสอบสวนทางวินัยบางข้อ  ซึ่งตามระเบียบข้อ 3 และข้อ 4 โจทก์มีสิทธิได้รับการสอบสวนจากกรรมการสอบสวนทีเป็นผู้ปฏิบัติงานในการประปาส่วนภูมิภาค  แต่จำเลยยกเว้นไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่วางไว้เฉพาะกับโจทก์แต่ผู้เดียว  โจทก์เห็นว่าการกระทำของจำเลยขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พ.ศ. 2540 หลายบท  คือมาตรา 28, 29 และ 30 โจทก์มีสิทธิได้รับการคุ้มครองอย่างเสมอกันกับพนักงานคนอื่น ๆ ของการประปาส่วนภูมิภาคตามมาตรา 4 และ 5 สิทธิของโจทก์ที่มีอยู่โจทก์ได้ยกขึ้นต่อสู้ในศาลแรงงานกลางแล้วตามมาตรา 26 หากศาลเห็นว่ากรณีของโจทก์เป็นการกระทำที่จำเลยโต้แย้งสิทธิที่โจทก์มีอยู่ตามรัฐธรรมนูญ  ศาลต้องรอการพิจารณาไว้ชั่วคราวและส่งสำนวนให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามมาตรา  264  หากเห็นว่าไม่เป็นไปตามมาตรา  264  ศาลก็มีคำสั้งยกคำร้องโจทก์เมื่อศาลยังไม่สั่งโจทก์จึงยังมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาได้  ขอศาลฎีกาได้โปรดพิจารณาคำร้องของโจทก์  หากเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ  ขอได้โปรดส่งสำนวนไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาด้วย

     ศาลฎีกามีคำสั่งว่า  “พิเคราะห์แล้ว   คำร้องของโจทก์ที่อ้างว่า   โจทก์มีสิทธิได้รับการสอบสวนความผิดทางวินัยจากกรรมการสอบสวนซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานในองค์กรของจำเลยตามที่กำหนดไว้ในระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสอบสวนทางวินัยของจำเลย   การที่จำเลยไม่ปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าว   โดยแต่งตั้งบุคคลภายนอกองค์กรของจำเลยมาเป็นกรรมการสอบสวนทางวินัยแก่โจทก์นั้น   เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย   พ.ศ. 2540  มาตรา 4,5,26,28,29  และ 3  ศาลต้องรอการพิจารณาคดีของโจทก์ไว้เป็นการชั่วคราวและส่งความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามมาตรา  264  นั้น เห็นว่า  กรณีตามคำร้องของโจทก์มิใช่เป็นการโต้แย้งว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ  จึงมิใช่กรณีที่ศาลจะต้องรอการพิจารณาพิพากษาคดีไว้ชั่วคราวและส่งความเห็นเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พ.ศ. 2540  มาตรา  264  จึงให้ยกคำร้อง”
 

(ปัญญา  สุทธิบดี – สกนธ์   กฤติยาวงศ์ – พูนศักดิ์   จงกลนี)         
จุมพล  ภิญโญสินวัฒน์   - ย่อ    
วัชรินทร์  ปัจเจกวิญญูสกุล   - ตรวจ
อ้างอิง : คำพิพากษาศาลฎีกา เล่มที่ 7, สำนักงานศาลยุติธรรม, พ.ศ.2544

 

หมายเหตุ: ข้อมูลหรือบทความที่ปรากฏในเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้น
โดยมีจุดมุ่งหมาย เพื่อการศึกษา, วิจัยกฎหมายและแนะนำผลงานของผู้เขียนข้อมูลหรือบทความนั้นๆ เพื่อให้เกิด
ความเข้าใจในกฎหมาย และมุ่งประโยชน์ ต่อส่วนรวมเป็นสำคัญ โดยมิได้กระทำเพื่อหากำไรในทางการค้าแต่อย่างใดทั้งสิ้น