รับรองลายมือชื่อและเอกสาร (Notary Public )
- หมวดหมู่ประเภทกฎหมาย
- Links ศาล
|
 กฤชษภณ ,  2016-10-03 01:37:33  |
| สวัสดีครับ ขอคำแนะนำ เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของสิทธิในอาคารครับ เรื่องมีอยู่ว่า ผมได้เช่าอาคารพาณิชย์ เพื่อประกอบธุรกิจ และอยู่อาศัยมา 13 ปีได้ ตอนนี้ได้หมดสัญญาเช่าแล้ว แล้วมีปัญญาหาเกี่ยวกับเจ้าของตัวจริงในอาคารคือ 1. เจ้าของที่ดิน ที่ให้เช่า ปลูกสร้างอาคาร(ยังไม่สามารถติดต่อได้) 2. โครงการที่ทำการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ที่ผมเช่า(หมดสัญญาเช่าที่ดินแล้ว) 3. คนเซ้งอาคารพาณิชย์ที่ผมเช่า (หมดสัญญาการเซ้งแล้ว) 4. คนเช่า (คือผม หมดสัญญาการเช่าแล้ว) ตอนนี้ได้หมดสัญญาทั้งหมด ยังไม่มีการต่อสัญญามา 4 เดือนได้แล้วครับ ตอนก่อนหมดสัญญาก็ได้ทำการตกลงกับคนที่เซ้งมาว่า รอต่อสัญญาได้ก่อน แล้วค่อยมาดำเนินการเก็บค่าเช่า แต่ตอนนี้ ได้เกิดปัญหาขึ้น 1.คนเซ้งได้ทำการเรียกเก็บ ค่าเช่ากับผม โดยที่ไม่มีสัญญาใดๆ 2.เขาได้ทำหนังสือมาให้ผมเซ็น โดยที่จะให้ผมจ่ายให้เขาทุกเดือน 3.เขาได้ยืนจดหมาย ขับไล่ 4.เขาได้ยืนเรื่องฟ้องศาลขับไล่ผม ผมอยากทราบว่า เขาหมดสิทธิในสัญญาไปแล้ว แต่เขาอ้างว่า เขายังมีสิทธิในการเก็บค่าเช่า เขาทำได้ด้วยหรอครับ ถ้าผมชำระให้เขาไปทุกเดือน แล้วเจ้าของที่มีสิทธิถูกต้องมา เก็บจากผม แล้วผมจะทำไงครับ ถ้าเขายังมีสิทธิอยู่ มีกฎหมายข้อไหนครับ ผมจะได้ศึกษาเอาไว้ จะได้ไม่โดนเอาเปรียบ และ ถ้าเขาไม่มีสิทธิ แล้ว ผมควรจะใช้กฎหมายข้อไหนโต้แย้งเขาครับ ขอความกรุณา ช่วยตอบผมด้วยนะครับ ปัญญหานี้มันเกิดมา 4-5 เดือนแล้วครับ ทำให้ผมเครียดมาก (ผมก็ได้แจ้งเขาไปตลอดว่า ถ้าเขามีหนังสือสัญญาการเป็นเจ้าของมาแสดง ผมพร้อมที่จะชำระตลอดครับ ผมเช่าเขามา 13 ปี ผมก็ชำระตรงเวลาตลอดครับ) |
อยากทราบสิทธิในการฟ้องขับไล่ครับ
|
|
เรียน คุณกฤชษภณ ขอตอบตามหลักกฎหมายเบื้องต้นว่า.- ถ้าสัญญาเช่ามีข้อตกลงให้เช่าช่วง เมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่าระหว่างคนเซ้งกับเจ้าของที่ดินแล้ว เจ้าของที่ดินรู้ความนั้นแล้วไม่ทักท้วง และคนเซ้งยังถือครองทรัพย์สินอยู่ ก็มีสิทธิให้เช่าช่วงต่อไปได้ ถือว่าคู่สัญญาระหว่าง "คนเซ้ง" กับ "เจ้าของที่ดิน" เป็นอันได้ทำสัญญาเช่าต่อกันไปแบบไม่มีกำหนดเวลา ดังนั้น คนเซ้งมีสิทธิเก็บค่าเช่า จากผู้เช่าช่วงต่อไปได้ tp + ur |
หมายเหตุ: ข้อมูลหรือบทความที่ปรากฏในเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้น
โดยมีจุดมุ่งหมาย เพื่อการศึกษา, วิจัยกฎหมายและแนะนำผลงานของผู้เขียนข้อมูลหรือบทความนั้นๆ เพื่อให้เกิด
ความเข้าใจในกฎหมาย และมุ่งประโยชน์ ต่อส่วนรวมเป็นสำคัญ โดยมิได้กระทำเพื่อหากำไรในทางการค้าแต่อย่างใดทั้งสิ้น
โดยมีจุดมุ่งหมาย เพื่อการศึกษา, วิจัยกฎหมายและแนะนำผลงานของผู้เขียนข้อมูลหรือบทความนั้นๆ เพื่อให้เกิด
ความเข้าใจในกฎหมาย และมุ่งประโยชน์ ต่อส่วนรวมเป็นสำคัญ โดยมิได้กระทำเพื่อหากำไรในทางการค้าแต่อย่างใดทั้งสิ้น