นายจ้างที่ทำคุณกับลูกจ้างไม่ขึ้น

GRACE & GAL , 2010-07-16 11:13:11 vikittipong@yahoo.com
สวัสดีค่ะ คุณทนายที่นับถือ
ดิฉันเป็นนายจ้างคนหนึ่ง ซึ่งถามว่าเป็นนายจ้างที่เอาเปรียบลูกจ้างหรือไม่ อยากให้คุณทนายลองพิจารณาให้ทราบด้วยน่ะค่ะ คือว่าดิฉันมีลูกจ้างคนหนึ่ง ซึ่งเมื่อประมาณ ปี 2552ได้สมัครเข้ามาทำงานกับดิฉัน และได้ตกลงทำสัญญาในการทำงาน 2 ปี ถ้าทำงานไม่ครบตามสัญญา จะต้องถูกปรับเป็นเงินจำนวน 50000 บาท (เนื่องด้วยร้านของดิฉันเป็นร้านตกแต่งเสริมความงามเกี่ยวกับเล็บมือ-เท้า ซึ่งเป็นวิชาชีพที่จะนำติดตัวไปได้ตลอดชีวิต การทำสัญญานี้จะทำเฉพาะลูกจ้างที่ไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการตกแต่งต่อเติมเล็บมาก่อนเท่านั้น เพราะทางร้านมีการฝึกอบรมให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้นซึ่งมีมูลค่ารวมเบ็ดเสร็จแล้วประมาณ150000 บาท แต่ต้องทำสัญญาการทำงานกับทางร้าน 2 ปี) ต่อมาลูกจ้างคนนี้ก็ลาออกไปเพราะทะเลาะกับเพื่อนร่วมงาน แต่มาอ้างเหตุผลในการลาออกว่า ไม่มีคนเลี้ยงลูก ดิฉันก็ยอมให้ลาออกไป ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นดิฉันมีลูกจ้างเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น และเป็นช่วงที่ทางร้านก็มีลูกค้าค่อนข้าง ๆ จะเยอะมาก อ๋อ...สำหรับลูกจ้างคนนี้ ถ้าวันไหนที่เธอไม่อยากจะทำงาน เธอก็จะอ้างเหตุว่าป่วย ซึ่งดิฉันก็ให้ลาป่วย แต่พอวันต่อมาเธอก็จะหยุดต่อไป โดยไม่มีการแจ้งให้ทางร้านทราบเป็นประจำ ซึ่งบางครั้งดิฉันก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายกับพฤติกรรมของเธอเหมือนกัน แต่ก็ยังให้โอกาสเธอว่าตลอด ไม่เคยคิดจะไล่ลูกจ้างออกทั้ง ๆที่บางช่วงทางร้านก็มีพนักงานค่อนข้างเยอะ แต่พอทางร้านไม่มีพนักงาน เธอนึกอยากจะออก เธอก็ไปในทันที โดยไม่คิดถึงทางร้านเลย ลูกจ้างคนนี้ลาออกไปได้ประมาณ 5-6 เดือน เธอก็โทรศัพท์มาหาดิฉันเพื่อจะขอเข้ามาทำงานอีก สามีดิฉันก็ไม่อยากให้รับไว้ แต่ดิฉันก็ยังสงสารเพราะเธอไม่มีงานทำ ก็จะให้โอกาสเธออีกครั้ง เธอกลับเข้ามาทำงานได้ 1 เดือน ดิฉันก็นึกสงสารอยากจะให้ประกันสังคมของเธอดำเนินไปอย่างต่อเนี่อง หลังจากที่ถูกตัดขาดไปแล้ว 6 เดือน ดิฉันทำประกันสังคมต่อให้เธอทันที แต่การเข้ามาในครั้งนี้ยังไม่ได้มีหลักฐานการสมัครเข้าทำงานของเธอเลย แต่ตกลงกันด้วยวาจาก่อนทำสัญญาว่า กลับมาครั้งนี้ เธอก็ต้องเริ่มงานใหม่เหมือนพนักงานใหม่ ทำการทดลองงาน 3 เดือน แต่พอเข้าเดือนที่ 2 เธอก็เริ่มมีความประพฤติเหมือนเดิม คือหยุดโดยไม่ลางาน และเธอก็มาบอกดิฉันว่า เธอท้องขอลาออกจากงาน เธอออกไปทันทีดิฉันไม่ได้จ่ายค่าจ้าง ซึ่งตามสัญญาทดลองงานนั้น ถ้าลูกจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ นายจ้างมีสิทธิที่จะไม่ต้องจ่ายค่าจ้างให้ เธอก็ไปฟ้องประกันสังคม ประกันสังคมโทรติดต่อดิฉันมา ทำให้ดิฉันคิดว่า การเป็นนายจ้างนี้มันเสียเปรียบลูกจ้างมากเลย เพราะกฎหมายคุ้มครองแต่ลูกจ้าง ถ้าเป็นลูกจ้างที่ดี ดิฉันยินดีที่จะช่วยเหลือเขาเต็มที่ มีลูกจ้าง 2-3 คนที่ร้าน อยากจะซื้อดาวน์บ้านหรือรถเป็นของตนเอง ดิฉันก็ให้กู้ยึมเงินก่อน โดยไม่คิดดอกเบี้ย และสามารถให้ผ่อนชำระได้ตามความสามารถ แต่ในกรณีนี้ เธอเป็นลูกจ้างที่ปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่ แต่ดิฉันก็ยังให้โอกาสให้กลับเข้ามาทำงานอีก และเธอก็ยังทำผิดอีก แต่กฎหมายกลับมองว่านายจ้างรวย นายจ้างผิดที่ไม่ยอมจ่ายค่าจ้าง ทำไมไม่คิดอีกแง่หนึ่งว่า ถ้าลูกจ้างคนนี้เธอไปปฎิบัติกับนายจ้างคนอื่นเช่นนี้ ไปเรื่อย ๆ คือไปทำงานที่นั้นสัก 2 เดือนแล้วลาออก แล้วฟ้องประกันสังคม ทำงานที่นี้อีก 2 เดือน แล้วไปฟ้องประกันสังคม หรือแรงงานจังหวัด นายจ้างทุกคนยังต้องทนอีกหรือไม่ ในเมื่อนายจ้างเองก็มีภาระหนักว่าลูกจ้าง ต้องจ่ายค่าเช่า ภาษี อุปกรณ์ เงินเดือน ฯลฯ
ดิฉันอยากถามว่า ในกรณีอย่างนี้ นายจ้างมีสิทธิที่จะทำอะไรกับลูกจ้างที่มีพฤติกรรมเช่นนี้บ้าง สามารถนำสัญญาเดิมไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้หรือไม่ ในกรณีที่ลูกจ้างลาออกก่อนทำงานไม่ครบตามสัญญา และถ้าดิฉันไม่จ่ายค่าจ้าง 12 วัน ตามที่ลูกจ้างไปฟ้องประกันสังคมและแรงงานจังหวัด ดิฉันจะมีความผิดต้องรับโทษอย่างไรบ้าง ที่จริงการจ่ายเงินค่าจ้างให้เธอไป ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร แต่ดิฉันไม่ต้องการให้กฎหมายเข้าข้างลูกจ้างที่เอาเปรียบนายจ้าง และไม่ต้องการให้เธอไปทำอย่างนี้กับนายจ้างคนอื่นอีกต่อไปค่ะ ช่วยไขปัญหาให้ดิฉันด่วนได้ไหมค่ะ เพราะตอนนี้ดิฉันรู้สึกว่า ทำไมดิฉันต้องการทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามฏกหมายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายภาษีบุคคลธรรมดา,ภาษีป้าย,หรือการทำประกันสังคมให้พนักงาน แต่กลับกลายเป็นว่า เป็นที่ทำให้ดิฉันเดือดร้อนมากๆ จนอยากจะปิดร้านไม่อยากจะทำอะไรอีกเลย ลูกจ้างคนนี้มาทำงานครั้งแรกได้แค่ 8 เดือนเท่านั้น ก็ทะเลาะกับเพื่อนร่วมงาน และมาขอลาออก ดิฉันยอมให้ออกโดยไม่คิดจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ที่ทำงานไม่ครบตามสัญญา เพราะคิดว่า ถ้าเป็นลูกจ้างที่มีพฤติกรรมที่ไม่ดีก็ให้ไปเสียดีกว่า แต่ไม่คิดว่าด้วยความสงสารที่เธอไม่มีงานทำ ยอมให้โอกาสเธอกลับมาเป็นครั้งที่ 2 เธอก็ยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิม และครั้งนี้เธอก็ยังไม่ผ่านการทดลองงานเลย ทำงานได้แค่ 1 เดือน กับ 12 วันเท่านั้นเอง ซึ่งรวมการทำงานทั้ง 2 ครั้งก็ยังไม่ครบ 1 ปีเลยค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

นายจ้างที่กฎหมายมักจะมองว่ารวย แต่เป็นหนี้มากกว่าลูกจ้างอีก


 

แจ๊ค , 2010-07-17 03:19:26

ร้านของผม ก็มีพนักงานที่มีพฤติกรรมอย่างนี้เหมือนกันครับ ผมเห็นใจนายจ้างจริง ๆ เลย ต้องใช้เงินลงทุนทุกอย่าง แต่ต้องมาเจอลูกจ้างนิสัยเลว ๆ แบบนี้ และบังเอิญว่า รัฐบาลก็คอยแต่แก้ไขปัญหาให้ลูกจ้าง อย่างเดียว กับนายจ้างก็มีแต่ต้องจ่ายเงินให้อย่างเดียว ลูกจ้างทำงานไม่มีประสิทธิภาพ พอลูกจ้างมีปัญหากับที่ทำงานก็ไปฟ้องกรมแรงงาน ไปฟ้องประกันสังคม ทางรัฐบาลก็คิดอย่างเดียวว่า นายจ้างมีเงิน แต่ทำไมไม่คิดว่า นายจ้างมีเงินลงทุนก็เพราะต้องไปกู้หนี้ยืมสินมา ทำมาหากินเหมือนกัน นายจ้างมีกิจการ แต่ก็มีหนี้สินมากกว่าลูกจ้างอีก แต่ก็ต้องทำเพราะต้องการความมั่นคงในชีวิต แต่ลูกจ้างบางราย พอได้เงินไป ก็นำไปเที่ยวเสเพล แทนที่จะรู้จักอดออม ผมคิดว่า ถ้ารัฐบาลเห็นใจแต่ลูกจ้างอย่างเดียว ต่อไปนายจ้างคงจะอยากปิดกิจการอีกเยอะมาก แต่ก็ดีนะครับ เพราะถ้าพวกเรานายจ้าง ปิดกิจการที่ทำอยู่ แล้วรู้จักอยู่อย่างพอเพียง ก็จะไม่มีการว่าจ้างลูกจ้างอีกต่อไป รัฐบาลจะได้คอยแก้ปัญหาการว่างงานเยอะขึ้นอีกเยอะ คุณมีสัญญากับลูกจ้าง ก็เล่นงานให้เต็มที่ไปเลยครับ ผมเป็นกำลังใจให้ครับ


 

นิติธนกิจ , 2010-07-19 03:59:37

เรียนคุณ GRACE & GAL

       ทางสำนักงานขอให้คำปรึกษา ดังนี้ครับ

       กรณีแรก  เมื่อลูกจ้างได้ทำงานให้แล้ว  นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างตามผลงาน

ที่ลูกจ้างได้ทำในเวลาทำงานปกติของวันทำงาน  หากนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้าง  นายจ้างต้อง

เสียดอกเบี้ยให้แก่ลูกจ้างในระหว่างเวลาผิดนัดน้อยละ 15 ต่อปี ตามพระราชบัญญัติคุ้ม

ครองแรงงาน

       กรณีที่สอง  เมื่อในสัญญาจ้างมีข้อสัญญาว่า  หากลูกจ้างทำงานไม่ครบตามกำหนดระยะ

เวลาในสัญญา  ต้องถูกปรับเป็นเงินจำนวน 50000 บาท  เมื่อลูกจ้างไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญา

จ้างหากนายจ้างได้รับความเสียหาย  นายจ้างสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีกับลูกจ้างได้

       หากมีข้อสงสัยประการใด  ติดต่อสำนักงาน

                                                          ขอแสดงความนับถือ
 
                                                     ทีมงานกฎหมายนิติธนกิจ

                                                                                                                    T T
 
        
 

บุคคลมือใหม่ , 2010-11-26 03:58:45

ที่บริษัทก็มีลูกจ้างที่มีพฤติกรรมแย่ ๆ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ผู้จัดการใหญ่คนเก่ารู้เห็นกับคนงานร่วมกันทุจริตตอกบัตรแทนกันแทบทั้งโรงงานรวมถึงฝ่ายบุคคล จนนายจ้างให้ออกจากงานไป แต่ยังคงเหลือพนักงานเก่า ๆ อยู่ไม่ได้ออก  แต่รับหัวหน้างานใหม่มาแทนและฝ่ายบุคคลทุกคนเหมือนเป็นคนใหม่ยังไม่รู้งาน พนักงานไม่ให้ความเชื่อฟังร่วมมือกันปิดบังข้อมูล ชอบหลบหลีกงาน เล่นการพนักงาน  เอาเปรียบพนักงานคนอื่นที่นิสัยดีดี  หากถูกว่าก็จะใช้อุปกรณ์ หรือทรัพย์สินของบริษัทแบบรุนแรง  หัวหน้างานเตือน ก็ไม่ยอมฟัง ให้ใบเตือนก็ไม่ยอมเซ็นต์ เอ่อะโวยวาย แต่ไม่หยุดงาน เจ้าของกิจการก็เป็นวัยรุ่นใจดีไม่ค่อยกล้าใช้ความรุนแรง หัวหน้างานเก่าที่มีเหลืออยู่ก็ให้ท้ายและช่วยซ่อนเล้นคอยหนุนหลัง นายจ้างก็รู้ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดีเพราะเขาอาวุโสและไม่มีหลักฐานเพียงแต่มีข้อมูลไม่รู้จะทำอย่างไรกับคนกลุ่มนี้ช่วยแนะนำอะไรได้บ้างค่ะ ลืมบอกว่าพนักงานชอบดึงเกมส์เพื่อให้เครื่องจักรหยุดบ่อย ๆ หัวหน้าฝ่ายช่างก็ร่วมมือรู้เห็นกันทั้งแผนกอะไหล่มาไม่ยอมเปลี่ยนอ้างขาดโนน ขาดนี่ทั้งที่เวลาเอาช่างจากสำนักงานใหญ่เข้ามาตรวจเครื่องกลับไม่เป็นไร

กลุ้มใจ
บุคคลมือใหม่
 

มอมแมม , 2011-03-02 03:53:56

รบกวนช่วยตอบด้วยนะคะ
คือดิฉันเป็นลูกจ้างทำงานตั้งแต่5ธันวาคม 2550 แต่ไม่มีประกันสังคมเพราะนายจ้างไม่ทำให้แต่พออยู่มาได้2ปีกว่าดิฉันได้ตั้งครรภ์ได้2เดือนนายจ้างจึงทำประกันสังคมให้ในกรณีนี้นายจ้างมีความผิดในด้านใดบ้างแล้วพอตอนคลอดดิฉันลาคลอด3เดือนทางประกันสังคมจ่ายค่าเสียเวลาให้45วันแต่นายจ้างไม่จ่ายให้เลย แบบนี้นายจ้างมีความผิดหรือเปล่าค่ะ
 

อดีตลูกจ้าง สอ. , 2011-03-08 08:49:57

นายจ้างส่วนรัฐบาล(สอ)ไม่ยอมทำประกันสังคมให้ลูกน้อง 1 คน เป็นเวลา ปีเศษ เห็นคุยกันว่าลูกน้องคนนี้เงินเดือนไม่พอกิน ซึ่งตอนนั้น เงินเดือนของลูกน้องคนที่ว่านี้อยู่ที่ 7000 กว่าบาทซึ่งเยอะกว่าผม อยู่ 1000 กว่าบาท แต่ผมและลูกน้องคนอื่น ๆ ต้องจ่ายค่าประกันสังคมกันทุกเดือน เดือนละ 295 ผมจึงอย่าถามว่ากรณีอย่างนี้นายจ้างมีความผิดรึเปล่าครับแล้วผมต้องทำอย่างไรครับ


 

นายจ้างคนนึง , 2014-12-12 02:27:34

 ดิฉัน เห็นด้วย กับนายจ้างค่ะ ดิฉีนจ้างลูกจ้างเขมรมา 4 คน  ญ 2 ช 2 ช่่วงที่ คสช. เปิดให้ทำบัตรขึ้นทะเบียนแรงงาน ดิฉันก็พาลูกจ้าง ทั้ง 4 คนไปทำบัตร เสียค่าทำบัตร คนละ 3080 บาท แต่ไม่เคยคิดที่จะเก็บค่าบัตร เลย เพราะถือว่า เค้าทำงานให้เรา และอยากให้เค้าเกรงใจเรา แต่พวกคุณคิดดู  พอลูกจ้างเขมร ชาย 2 คน มันได้บัตรปุ๊บ มันทำได้อีก 2 เดือนมันหนีไปเลย ชวนกันไปหาที่ทำงานใหม่  พอดิฉันทราบเกี่ยวกับที่ทำงานใหม่ ดิฉันก็โทรศัพท์ไปต่อว่า มันย้อนกลับมาว่า ดิฉันไม่เก็บเงินมันเอง นั่น กลายเป็นว่าดิฉันเป็นคนผิด  แล้วดิฉันก็เลยต้องหาคนใหม่มาแทนพวกมัน เสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน และเสียความรู้สึก  อยากทราบว่า คสช ให้ความเป็นธรรมกับพวกลูกจ้าง แล้วอย่างกรณีที่พวกมันหนีไป แต่บัตรยังมีเราเป็นนายจ้่าง โดยที่นายจ้างใหม่ ไม่ต้องทำไรเลย พอรู้ว่ามันมีบัตรก็รับมันเข้าทำงาน ไม่ต้องเสียเวลาพาพวกมันไปทำบัตร ไม่ต้องเสียเงินค่าบัตรให้พวกมันไม่ทราบว่า คสช จะมีนโยบายให้ความเป็นธรรมกับนายจ้าง อย่างดิฉันอย่างไร
 

นายจ้างคนนึง , 2014-12-12 02:28:29

 ดิฉัน เห็นด้วย กับนายจ้างค่ะ ดิฉีนจ้างลูกจ้างเขมรมา 4 คน  ญ 2 ช 2 ช่่วงที่ คสช. เปิดให้ทำบัตรขึ้นทะเบียนแรงงาน ดิฉันก็พาลูกจ้าง ทั้ง 4 คนไปทำบัตร เสียค่าทำบัตร คนละ 3080 บาท แต่ไม่เคยคิดที่จะเก็บค่าบัตร เลย เพราะถือว่า เค้าทำงานให้เรา และอยากให้เค้าเกรงใจเรา แต่พวกคุณคิดดู  พอลูกจ้างเขมร ชาย 2 คน มันได้บัตรปุ๊บ มันทำได้อีก 2 เดือนมันหนีไปเลย ชวนกันไปหาที่ทำงานใหม่  พอดิฉันทราบเกี่ยวกับที่ทำงานใหม่ ดิฉันก็โทรศัพท์ไปต่อว่า มันย้อนกลับมาว่า ดิฉันไม่เก็บเงินมันเอง นั่น กลายเป็นว่าดิฉันเป็นคนผิด  แล้วดิฉันก็เลยต้องหาคนใหม่มาแทนพวกมัน เสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน และเสียความรู้สึก  อยากทราบว่า คสช ให้ความเป็นธรรมกับพวกลูกจ้าง แล้วอย่างกรณีที่พวกมันหนีไป แต่บัตรยังมีเราเป็นนายจ้่าง โดยที่นายจ้างใหม่ ไม่ต้องทำไรเลย พอรู้ว่ามันมีบัตรก็รับมันเข้าทำงาน ไม่ต้องเสียเวลาพาพวกมันไปทำบัตร ไม่ต้องเสียเงินค่าบัตรให้พวกมันไม่ทราบว่า คสช จะมีนโยบายให้ความเป็นธรรมกับนายจ้าง อย่างดิฉันอย่างไร

รายละเีอียด:
ชื่อ:
หมายเหตุ: ข้อมูลหรือบทความที่ปรากฏในเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้น
โดยมีจุดมุ่งหมาย เพื่อการศึกษา, วิจัยกฎหมายและแนะนำผลงานของผู้เขียนข้อมูลหรือบทความนั้นๆ เพื่อให้เกิด
ความเข้าใจในกฎหมาย และมุ่งประโยชน์ ต่อส่วนรวมเป็นสำคัญ โดยมิได้กระทำเพื่อหากำไรในทางการค้าแต่อย่างใดทั้งสิ้น